ชีวิตหลังความตาย
โดย Krerkkiat Rothomphiwat เมื่อ 14 สิหาคม 2555 ทบทวนจาก พระธรรมไตรปิฎก
สิ่งมีชีวิตทุกสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกล้วนมี เกิด แก่ เจ็บ และตาย ตามวัฐจักรวงจรชีวิตของตัวมันเองถ้าหากสัตว์โลกทั้งหลายปลงได้ทำใจได้แล้วการตายก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป เมื่อวานนี้เป็นวันประชุมเพลิงศพ ของพี่ชายคนที่ 3 ของข้าพเจ้าซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ก่อนการประชุมเพลิงศพก็ได้นิมนต์พระเทศ 1 กัณฑ์ และข้าพเจ้าก็ได้แสดงธรรมต่อจากพระเพื่อให้ญาติโยมได้ฟัง ถึงเรื่อง ชีวิตหลังความตาย ว่าหลังจากตายแล้ววิญญาณจะไปไหนถึงแม่จะไม่ได้เป็นพระก็พอที่จะแสดงธรรมกับเขาได้บ้าง จึงได้แสดงธรรมให้แก่ญาติโยมเพื่อเป็นวิทยาทานไว้ดังนี้
มนุษย์และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย
เพราะการ "ตาย" หมายถึง
สภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่
ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว
ทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ
1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท
- ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)
- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย
- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ
- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติที่โสโครกและสกปรก
เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน?
ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก
จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น
พอได้สติก็จะมีท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่ชะตาถึงฆาต
พาไปยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว ในขณะที่มีชีวิตอยู่ 1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท
- ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)
- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย
- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ
- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติที่โสโครกและสกปรก
เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน?
วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์ หรือเรียกว่า "อนันตริยกรรม" มีอยู่ 5 อย่าง คือ 1.ฆ่าพ่อ 2. ฆ่าแม่ 3. ฆ่าพระอรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพทุธเจ้าห้อเลือด
หลังจากที่คนเราตายประมาณ 1-2 วัน ปกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย 7 วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอพิจารณาคดี ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลังง่วนอยู่กับงานศพ
เรามาดูปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพังเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น
เจ็ดวันรอบแรก
วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น ก็กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ สอง
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลานั้น
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผี จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ สาม
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม ยามมีชีวิตทำชั่วอะไร ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด ตอนนี้แต่ก็สายเสียแล้ว
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด
เจ็ดวันรอบที่ สี่
เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้ ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์
เจ็ดวันรอบที่ ห้า
วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกหลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์
เจ็ดวันรอบที่ หก
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้ไปเกิดยังสุคติภูมิ ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่าเวทนา
เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด
เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกิเจ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ก็จักลหุโทษ ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษเป็นเท่าตัว.
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น เร่งสะสมความดีกันให้มากๆ นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ...
การคำนวณ บาปบุญคุณโทษ
เทพเจียง เจ้ากรมบัญชีบาปบุญ
ผู้ใดสร้างสมบุญและบาป เมื่อหักลบกันแล้วถ้า จำนวนบาปมีมากกว่าจำนวนบุญ
ให้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ตามกรรมแห่งตน ถ้าจำนวนบุญมีมากกว่าจำนวนบาป แต่ ไม่ถึง 3 000 บุญ จักได้เกิดเป็นมนุษย์อีก ถ้าจำนวนบุญมี มากกว่าบาปตั้งแต่ 3,000 บุญขึ้นไป จักได้เป็นเทพชั้นล่าง จำนวนบุญมีมากกว่า 10,000 บุญขึ้นไป จักได้เป็นเทพ ชั้นกลาง จำนวนบุญมากกว่า 15,000 บุญขึ้นไป จักได้เป็น
เทพชั้นสูง จานวนบุญครบ 100,000 บุญขึ้นไป จักได้เป็น พุทธะ
เทพเจ้า ณ สุขาวดีแสนสุขสันต์ ส่วนผู้สร้างบาปหนัก จักตกอเวจีตลอดกาล
หน่วย บาป บุญ
หน่วย บาป บุญ
- พูดเท็จ
กล่าวคำหยาบ นินทาผู้อื่น 1 ครั้ง
|
1 บาป
|
- เสียสัจจะ
ผิดนัด 1 ครั้ง
|
3 บาป
|
- เล่นการพนัน
1 ครั้ง
|
5 บาป
|
- ตั้งบ่อนการพนัน
1 ครั้ง
|
100 บาป
|
- เมาสุรา 1 ครั้ง
|
6 บาป
|
- กินเนื้อวัว
เนื้อสุนัข 1 ครั้ง
|
1 บาป
|
- พิมพ์หนังสือธรรมะแจก
1 เล่ม
|
3 บุญ
|
- ทำบุญให้ทาน
10 หยวน
(ไต้หวัน)
|
1 บุญ
|
- ค้างหนี้ไม่ชำระ
10 หยวน
|
0.6 บาป
|
- ลักทรัพย์, ฉ้อโกง,
ทุจริจ,รับทรัพย์อันมิชอบธรรม
10 หยวน
|
1 บาป
|
- ขายของปลอม
ของเสื่อมคุณภาพ 1 ครั้ง
|
5 บาป
|
- โกงตาชั่ง 1 ครั้ง
|
10 บาป
|
- เสียภาษีครบถ้วน
1 ครั้ง
|
5 บุญ
|
- หลีกเลี่ยงภาษี
1 ครั้ง
|
8 บาป
|
- ทะเลาะวิวาท
ฟ้องร้องกัน 1 ครั้ง
|
2 บาป
|
- ถอนคดี, ถูกหมิ่นประมาทอดกลั้นไม่เอาเรื่อง 1 ครั้ง
|
50 บุญ
|
- การให้บำเหน็จ
การลงโทษขาดยุติธรรม 1 ครั้ง
|
3 บาป
|
- ลงโทษผู้ไร้ความผิด
1 คน
|
100 บาป
|
- โยนความผิดให้ผู้อื่น
1 เรื่อง
|
100 บาป
|
- ทิ้งขยะลงถนน, คู คลอง 1
ครั้ง
|
0.4 บาป
|
- ปิดกั้นสัญจรทางน้ำหรือทางบก
1 ครั้ง
|
400 บาป
|
- เที่ยวซ่อง 1 ครั้ง
|
100 บาป
|
- ข่มเหงรังแกผู้อ่อนแอกว่า
1 ครั้ง
|
3 บาป
|
- ไม่ยอมรับสินบนทำตามหน้าที่เคร่งครัด
1 ครั้ง
|
8 บุญ
|
- ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
1 ครั้ง
|
10 บุญ
|
- พบเห็นคนประสบอุบัติเหตุไม่ช่วยเหลือ
1 ครั้ง
|
10 บาป
|
- ภรรยาบ่นว่าสามี
1 ครั้ง
|
3 บาป
|
- สามีภรรยาทะเลาะกัน
1 ครั้ง
|
2 บาป
|
- หญิงครองหม้ายไม่ด่างพร้อยตลอดชีวิต
|
10,000 บุญ
|
- คบชู้ 1 ครั้ง
|
100 บาป
|
- แย่งสามีหรือภรรยาผู้อื่น
1 คน
|
1,000 บาป
|
- มีสามีเดียวหรือภรรยาเดียวตลอดชีพ
|
1,000 บุญ
|
- ทิ้งลูกทิ้งสามีหรือภรรยา
1 คน
|
1,000 บาป
|
- เชื่อฟังบิดามารดา
1 ครั้ง
|
5 บุญ
|
- ขัดคำสั่งบิดามารดา
1 ครั้ง
|
10 บาป
|
- เลี้ยงดูบิดามารดา
1 ครั้ง
|
1 บุญ
|
- ไม่เหลียวแลบิดามารดา
1 วัน
|
0.5 บาป
|
- เนรคุณบิดามารดา
|
2,000 บาป
|
- ปรนนิบัติบิดามารดาด้วยความกตัญญูตลอดชีวิต
|
100,000 บุญ
|
- โกรธเคืองพ่อแม่
1 ครั้ง
|
1 บาป
|
- พี่น้องสามัคคีไม่แก่งแย่ง
|
100 บุญ
|
- พี่น้องโกรธเคืองกัน
|
100 บาป
|
- ถูกดูหมิ่นไม่โกรธ
1 ครั้ง
|
1 บุญ
|
- โกรธไม่หาย 1 ครั้ง
|
3 บาป
|
- ดื่มสุรา 1 ชาติ
|
900 บาป
|
- คืนดีกัน, ให้อภัย 1
ครั้ง
|
3 บุญ
|
- พยาบาท
คิดแก้แค้น 1 เรื่อง
|
3 บาป
|
- สวดมนต์ไหว้พระ
1 ครั้ง
|
1 บุญ
|
- กิริยาวาจาสุภาพ
1 ครั้ง
|
0.5 บุญ
|
- ผู้น้อยรับใช้ผู้อาวุโส
1 ครั้ง
|
3 บุญ
|
- ลบหลู่ครูอาจารย์
1 ครั้ง
|
1 บาป
|
- ยกย่องครูอาจารย์
1 ครั้ง
|
1 บุญ
|
- ประพฤติตนเป็นคนดี
l ชาติ
|
1,000 บุญ
|
- ประพฤติเกเร
เป็นอันธพาลไม่กลับตัว l ชาติ
|
1,000 บาป
|
- ช่วยชีวิตคน
1 ชีวิต
|
100 บุญ
|
- ฆ่าคน 1 ชีวิต
|
1,000 บาป
|
- ฆ่าตัวตาย
|
1,000 บาป
|
- ฆ่าข่มขืน 1 ชีวิต
|
10,000 บาป
|
- สละชีพเพื่อชาติ
|
1,000 บุญ
|
- ก่อการจลาจล, ทำให้เกิดความวุ่นวายแก่บ้านเมือง 1 ครั้ง
|
1,000 บาป
|
- ใช้ไสยศาสตร์ทำร้ายคน
1 ครั้ง
|
80 บาป
|
- บำเพ็ญธรรมจริงจัง
(ละชั่วทำดี)
|
10,000 บุญ
|
- ทำแท้ง 1 ครั้ง
|
1,000 บาป
|
- ทิ้งธัญญาหาร
(ข้าว) 10 เม็ด
|
1 บาป
|
- บริการให้ความสะดวกผู้อื่น
1 ครั้ง
|
1 บุญ
|
- ปล่อยนกปล่อยปลา
1 ตัว
|
1 บุญ
|
- พูดล้อเลียนคนอัปลักษณ์
มีปมด้อย 1 คำ
|
5 บาป
|
- พูดตำหนิศาสนาอื่น
1 ครั้ง
|
100 บาป
|
- บริจาคยารักษาโรค
1 ครั้ง
|
3 บุญ
|
- ส่งเสริมคนทำชั่ว
1 ครั้ง
|
4 บาป
|
- พูดหยาบคายลามก
1 ครั้ง
|
10 บาป
|
- ทำหน้าที่แม่บ้านดูแลบ้านเรือนเรียบร้อย
1 วัน
|
3 บุญ
|
- สร้างหนังสือลามก
1 เรื่อง
|
3,000 บาป
|
- แสดงหนัง-ละครลามก
1 ครั้ง
|
100 บาป
|
- อดกลั้นตัณหาราคะ
1 ครั้ง
|
10 บุญ
|
- ฆ่ากุ้งหอยปูปลาปรุงอาหาร
10 ตัว
|
1 บาป
|
No comments:
Post a Comment